บทสวดวิธีอธิษฐานก่อนนอนเพื่อตัดกรรมตนเอง
ให้ตัดกรรมตนเอง ท่านจะอธิษฐานหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนนอนก็ได้
(นะโม 3 จบ)
“สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ขะมามิ ภันเต”
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม
พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่
มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย
อายุ วรรณะ สุขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม
ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท
ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ …
“คนเราเกิดมาหลายภพชาติ ต่างมีเจ้ากรรมนายเวรของตนต่างกัน
การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้เบาบางน้อยลง “
เราต้องการสิ่งใด มีอุดมคติมุ่งมั่นในสิ่งใด ขอให้ระลึกถึงสิ่งนั้นและอธิษฐานจิตก่อนนอน เมื่อเรานอนหลับไป
จิตใต้สำนึกจะซึมซับเอาความปรารถนานั้นไว้ และพิจารณาหาทางให้เราประสบความสำเร็จ
เมื่อเราตื่นขึ้นตอนเช้า ขอให้เราคิดว่าเป็นชาติใหม่ของเรา
ขอให้คิดไปในทางที่ดี สร้างจินตภาพในเรื่องความสุขความสำเร็จ
เราจะได้มีพลังจิตที่เข้มแข็งไปในทางบวกและทำหน้าที่ที่มาถึงให้ดีที่สุด
จิตที่เต็มไปด้วยธรรมะ เป็นจิตที่มีความสร้างสรรค์มากเพราะไม่มีอะไรบกพร่อง
พร้อมที่จะช่วยคนอื่นได้ โดยไม่หวังอะไรตอบแทน เขาจะรักหรือไม่รัก เรื่องของเขา แต่เราจะให้
ก่อนนอนทุกคืน เราควรตั้งใจให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างและแก่ทุกคน ทำเสมือนหนึ่งว่า เราจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
ความตั้งใจอย่างนี้ ทำให้ใจของเราสงบและเราจะหลับไปอย่างเป็นสุข ตื่นขึ้นพร้อมด้วยความสดชื่นแจ่มใส
ขอจงท่องจำไว้ว่า เมื่อใดใจของเราผูกเวร เมื่อนั้นมองไปทางใดก็พบแต่ศัตรู
แต่เมื่อใดใจของเรามีเมตตา มองไปทางใดก็เจอแต่มิตรไมตรี
ถ้าท่านเห็นว่าเป็นบทความนี้มีเนื้อหาดี
ก็กรุณาร่วมด้วยช่วยกันส่งต่อความดีด้วยเผยแพร่พระธรรมเป็นธรรมทานต่อๆกันไปด้วยครับ
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บskynews
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1. กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม อย่างวิญญูชน พึงกระทำ พร้อมลงนาม
2. ทีมงาน boonumpar-thailand.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการลบข้อความที่ หมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัติย์
3. ไม่ควรใช้ ถ้อยคำที่ หยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด กล่าวหาให้ร้ายผู้อื่น หรือสร้างความแตกแยก ในสังคม
4. ทุกความคิดเห็นนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับ ทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ และ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฏหมายได้ทุกกรณี ประกอบกับ ทีมงาน ขอสงวนสิทธิ์ใน การลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆต่อเจ้าของความเห็น